9 ฐานเรียนรู้
ความรู้ที่น่าสนใจ (Documents on web)
ติดต่อเรา
มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
เลขที่ ๑๑๔ ซอย บี ๑๒ หมู่บ้านสัมมากร สะพานสูง กรุงเทพฯ ๑๐๒๔๐
สำนักงาน ๐๒-๗๒๙๔๔๕๖ (แผนที่)
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง 038-198643 (แผนที่)
User login
ลิงค์เครือข่าย
4 รู้ 3 รัก 2 สามัคคี เปลี่ยนฐานคิดสู่ความพอเพียง (2-3)
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประกอบด้วย 2 เงื่อนไข คือ ความรู้ และคุณธรรม สัปดาห์ที่แล้ว อาจารย์ยักษ์อธิบายเรื่อง 4 รู้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขความรู้ ส่วนสัปดาห์นี้จะอธิบายเรื่อง “รัก และ สามัคคี” ซึ่งก็คือเงื่อนไข “คุณธรรม” ตามสูตร 3 ห่วง 2 เงื่อนไข
คุณธรรมสำคัญ ที่ซ่อนอยู่ในคำว่า “รัก” คือ ความเพียร ความอุตสาหะ มุมานะ เพราะ “รัก” ที่จะทำสิ่งนั้นจริงๆ คำรักนี้จึงมีความหมายยิ่งใหญ่ และเป็นแรงผลักดันให้เราทำอย่างสุดตัว สุดใจ แม้ใครจะว่าบ้าก็ยอม หรือแม้จะรู้ว่าเราคิดต่างจากคนอื่นๆ แต่เมื่อคิดแล้ว เห็นแล้ว ก็ทุ่มเททำเต็มที่ เหมือนอย่างที่อาจารย์ยักษ์บอกอยู่เสมอว่า “เพราะรักจึงอยากให้คุณรู้” การทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดจากความรักที่มากมายและแผ่ขยายไปยังทุกคน ทุกส่วนอย่างไม่มีข้อจำกัด คำว่า “รัก” นี้จึงเพียงพอที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จในการทำงานทุกประการ
3 รัก ในที่นี้ คือ 1.รักคน รักองค์กร 2.รักทรัพยากร 3.รักอารยธรรม เป็น 3 รักที่เพียงพอต่อการนำไปสู่การปฏิบัติการออกแบบองค์กรเพื่อความพอเพียง จากฐานความรู้ทั้ง 4 ที่มีอยู่แล้ว แต่การจะออกแบบองค์กรใดๆ นั้น เป็นเรื่องที่มีความแตกต่างไปตามแต่ละองค์กร
อาจารย์ยักษ์จะขอยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ คือ ชุมพรคาบาน่ารีสอร์ท อุตสาหกรรมการบริการที่เคยประสบวิกฤติจากเศรษฐกิจฟองสบู่แตก วริสร รักษ์พันธุ์ เจ้าของจึงตัดสินใจลองเดินตามแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงโดยศึกษาหาความรู้ในหลายๆ ด้าน
เมื่อมีความรู้ขณะเดียวกันก็ มีความรัก ทั้งรักในคนในองค์กร แม้ว่าจะต้องเผชิญกับมรสุมทางเศรษฐกิจ ก็ไม่ได้เลือกทางที่จะลอยแพพนักงาน กลับเลือกที่จะกอดคอกันไป จากนั้นวริสรจึงเริ่มออกแบบองค์กรใหม่ โดยตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อให้อยู่รอด ซึ่งต้องอาศัยความสามัคคีของพนักงาน ตรงนี้จะเป็นหนึ่งใน 2 สามัคคี คือสามัคคีภายใน
ความสามัคคีตัวนี้ทำให้เกิดความร่วมกันคิด ร่วมกันทำหาทางรอดไปด้วยกัน เกิด “ตลาดอุ้มชู” โดยพนักงาน เพื่อพนักงาน ซึ่งเป็นผลจากการส่งพนักงานไปอบรมเศรษฐกิจพอเพียง แล้วกลับมาเริ่มกระบวนการพึ่งตนเอง โดยทำน้ำยาอเนกประสงค์ใช้เองในโรงแรม ขยายผลไปยังครอบครัวพนักงานโดยส่งเสริมให้ปลูกผักสวนครัว จากนั้นนำมาจำหน่ายให้แก่โรงแรมเกิดเป็นตลาดชุมชน โดยวริสรก็ให้ราคาที่เป็นธรรม จึงรอดทั้งคน รอดทั้งองค์กร
เมื่อเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับคนในชุมชน ได้เรียนรู้วัฒนธรรม เกิดความเข้าใจ ก็เกิดสำนึกรักอารยธรรมของท้องถิ่นตนเอง เห็นว่าข้าวเหลืองปะทิวพันธุ์ข้าวพื้นเมืองกำลังจะสูญพันธุ์ จึงสนับสนุนให้ชุมชนปลูกข้าวเหลืองปะทิว และนำข้าวนั้นมาให้บริการแขกในโรงแรม
สุดท้ายด้วยความรักที่อยากให้คุณรู้ จึงตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแบบ เรียนไป เล่นไป ก็เกิดเป็นศูนย์เพลินขึ้น โดยมาจากคำว่า Play + Learn จัดอบรมเศรษฐกิจพอเพียง
ทั้งหมดนี้เกิดจากการมองเข้าไปข้างใน ด้วยหัวใจสำคัญ คือ เข้าใจความหมายของ Our Loss is Our Gain และมีความรักที่เต็มเปี่ยมพร้อมเผื่อแผ่อย่างไม่จำกัด...เพราะพอเพียง จึงมีเหลือ พอเผื่อแผ่และแบ่งปัน
ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงจะยั่งยืนและส่งผลในระดับประเทศได้ ต้องอาศัย ความสามัคคี ชุมพรคาบาน่าฝ่าวิกฤติได้ด้วยสามัคคีภายในที่พร้อมจับมือกันต้านวิกฤติ เดินหน้าสู่ความเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงกับภายนอก เป็นการจับมือกันเป็นเครือข่าย “จากภูผาสู่มหานที” เชื่อมโยงกันจากต้นน้ำพะโต๊ะสู่ปลายน้ำที่เกาะพิทักษ์ เชื่อมโยงทั้งการท่องเที่ยวและการรักษาทรัพยากรธรรมชาติลุ่มน้ำพะโต๊ะ
จนวันนี้ วริสร รักษ์พันธุ์ ยังไม่หยุดเผื่อแผ่ความรัก แต่เดินทางไปจับมือกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเลย สร้างเป็นเครือข่ายการท่องเที่ยวต้นน้ำ 4 จังหวัด Green cycle route (เลย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย) ตั้งใจจะช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม อนุรักษ์คน อนุรักษ์สัตว์ อนุรักษ์ลุ่มน้ำ โดยจะปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่างในพื้นที่โรงแรมทุกแห่งเพื่อคืนกลับความสมบูรณ์ให้ต้นน้ำ
อุตสาหกรรมพอเพียงที่เข้าใจตนเองจริงๆ และเข้าใจหลักการทั้งเก้า จึงสามารถปฏิวัติตนเองเพื่อปฏิวัติโลกได้ดุจสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา
"อาจารย์ยักษ์ มหา’ลัยคอกหมู"