ความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นระยะเวลาไม่นาน แต่ปรากฏว่าด้วยแรงแห่งบุญ ธรรมและทาน ทำให้โครงการก้าวหน้าไปมาก เราได้ปั่นจักรยานรณรงค์เปิดโครงการจากสวนลุมพินีไป พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเมืองโบราณ สถานที่ซึ่งมีสโลแกนว่า “เป็นคนไทยต้องไปเมืองโบราณ” ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเมื่อบรรดานักปั่นจักรยานไปถึงเมืองโบราณ ทุกคนก็ประทับใจในความงดงามของสถานที่ การเก็บรักษาประวัติศาสตร์ชาติเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ไปเห็นการนำศาสตร์ด้านการจัดการดิน น้ำ ป่า ไปใช้จริงๆ เห็นทั้งการห่มดินด้วยฟาง เพื่อลดการคายน้ำของดิน ช่วยประหยัดน้ำรดต้นไม้ การบำบัดน้ำเสียแบบใช้อธรรมปราบอธรรม โดยใช้วัชพืชที่คนรังเกียจคือ ผักตบชวามาดูดสารพิษจากคลองสำโรง ซึ่งเรียนรู้มาจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ คือ โครงการบำบัดน้ำเสีย ที่บึงมักกะสัน จนทำให้เมืองโบราณวันนี้ “ต้นไม้งาม น้ำใส ปลาชุม” เป็นที่ประทับใจของขบวนนักปั่นจักรยานกว่า 100 คน รวมทั้งอาจารย์ยักษ์ก็ได้มีโอกาสทดลองปั่นจักรยานไปกับกลุ่มนักปั่นด้วย ทำให้ได้รู้ว่า การปั่นจักรยานนี้ทั้งสนุก และทำให้สุขภาพดีขึ้น จนติดใจ หลังจากนั้นจึงยึดการปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายยามเช้าไปพร้อมกับการเตรียมพร้อมร่างกายเพื่อปั่นระยะไกลจากภูผา สู่มหานทีตามโครงการที่วางไว้ต้นเดือนมีนาคมนี้

               นอกจากนั้น โครงการยังได้กลุ่มนักปั่นจักรยาน ชื่อเท่ๆ อย่าง ทีมสิงห์สลาตัน เข้ามาร่วมทีม สร้างความประทับใจให้อาจารย์ยักษ์อย่างมาก เพราะพวกเขาขยัน ขันแข็ง ทำงานกันเต็มที่และรวดเร็ว โดยทุกคนพากันพกใจมาช่วยกันคิด ช่วยกันสร้างสรรค์งานนี้อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย มีการนัดประชุมกันเป็นประจำ เพื่อรวมตัวกัน ปั่นรณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการ ไปยังที่ต่างๆ  เพื่อบอกบุญให้กับคนที่อยากจะเข้ามาร่วมกิจกรรมดีๆ ที่ไม่ได้มีขึ้นบ่อยๆ อาจกล่าวได้ว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการรวมกิจกรรมการปั่นจักรยานระยะไกล ไว้กับการฟื้นฟูทรัพยากรประเทศด้วยศาสตร์ที่พระองค์ท่านพระราชทานไว้ โดยในแต่ละวันที่เดินทางไปนั้น ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ เครือข่ายภาคเหนือก็จะได้จัดกิจกรรมเพื่อรอรับทีมจักรยาน โดยจะเป็นกิจกรรมการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ทำฝายน้ำล้น ปลูกแฝก ทำบ้านปลา หรือที่ภาษาถิ่นเรียก กล่ำ ซั้ง หรือเหญาะ แล้วแต่ว่าภาคไหนจะเรียกอะไร นอกจากนั้นยังจะมีการคืนชีวิตให้แผ่นดิน ด้วยการปาระเบิดจุลินทรีย์ตลอดรายทาง การประชุมครั้งล่าสุดของโครงการนี้ ผู้เข้าประชุมชวนกันนับเล่นๆ ว่า หากในระเบิดจุลินทรีย์ 1 กรัม มีจุลินทรีย์อยู่ 2 ล้านล้านชีวิตที่นับได้ด้วยเครื่องมือนับในปัจจุบัน โครงการนี้ทั้งโครงการคงจะได้คืนชีวิตให้กับแผนดิน นับหมื่นแสนล้านล้านชีวิต ไม่นับรวมกับจุลินทรีย์ที่เครื่องมือวัดไม่ได้ แอบหลบซ่อนตัวอยู่ในที่อยู่ของเขาอีกนับไม่ถ้วน รวมทั้งต้นไม้อีกจำนวนมากที่จะได้ยืนหยัดสร้างอากาศบริสุทธิ์กลับคืนให้กับโลก

ทั้งหมดนี้ยังไม่สำคัญเท่ากับ “ชีวิต” ที่คืนให้กับคนไทยทุกคนด้วยการนำเสนอทางออกจากวิกฤตแบบง่ายๆ  ทำได้จริง คือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ไม่มีอะไรโซฟิสติเคทนั่นเอง +