อาจารย์ยักษ์ มหา’ลัยคอกหมู

 

สงครามห้าทัพ (1)

 

จนถึงวันนี้ สถานการณ์การรบของสงครามห้าทัพ ในปีพุทธศักราช 2554 ระหว่างคนไทยกับกองทัพแม่พระคงคา ดูเหมือนว่าสถานการณ์ค่อนข้างวิกฤต กองทัพแม่พระคงคาได้ส่งทัพหน้า บุกทำลายมาจนถึงฐานบัญชาการใหญ่เรียบร้อยแล้ว ด้วยพลังน้ำ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนทัพหลวง อีก 4,000 ล้าน ก็ได้เข้ามาสมทบที่เมืองปทุมแล้ว ทำลายเมืองปทุมจนจมน้ำทุกอำเภอ เดือดร้อนแสนสาหัส ถือว่าหนักหนาที่สุดในบรรดาจังหวัดทั้งหลายที่ถูกน้ำท่วม

 

กองทัพปีกซ้าย มีไพร่พล 1,500 ล้าน อ้อมไปโจมตีทางฝั่งบางปะกง นับถึงเวลานี้เมื่อมีทัพหน้ากับทัพหลวงระดมกำลังไป ก็อาจจะมีกำลังเพิ่มถึง 2,000 ล้านแล้ว ส่วนปีกขวาเดิมมีกำลัง 500 ล้านเมื่อบวกกับบางส่วนของทัพหน้ากับทัพหลวง ก็น่าจะเกิน 1,000 ล้านไปแล้ว ทัพทางด้านนี้บุกเข้าทางกรุงธนบุรี ทำลายฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาราบเป็นหน้ากลอง

 

แม้เหตุการณ์เข้าขั้นวิกฤตที่เห็นอยู่นี้ก็ยังไม่จบสิ้นการศึก ทัพหนุนยังคงทยอยกันเข้ามาหลายระลอก รวมกำลังแล้วประมาณอยู่ที่ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเป็นดังนี้กรุงเทพมหานครก็เห็นมีแต่จะแตกพ่ายอย่างไม่เป็นท่า โดยไม่อาจหลีกเลี่ยง กองทัพแม่พระคงคาก็มิได้ออมมือให้ แต่กลับจะระดมไพร่พลมาเพิ่มด้วยเม็ดฝนที่หยาดลงมากลางกรุงในวันนี้

 

เมื่อสถานการณ์เป็นดังนี้ เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติที่อยู่ทางภาคตะวันออกที่ใกล้ที่สุด คือ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ซึ่งเป็นศูนย์แม่ และสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มหาวิทยาลัยราชภัฏ ราชนครินทร์ ก็ได้เตรียมความพร้อมให้เป็นหลัก ยืนรองรับการอพยพไว้แล้ว โดยศูนย์ฯ แต่ละแห่งสามารถรองรับผู้อพยพได้ 500 คน รวมกันแล้วก็ได้หลักพันคน ส่วนที่ศูนย์วัดชูจิต อ.วังน้อย จ.อยุธยา ก็ยังมีคนอพยพเข้ามาอยู่เรื่อยๆ จากความเดือดร้อนที่ยังคงไม่ลดลง ตอนนี้ก็มีคนเข้าไปอยู่กว่า 400 คนแล้ว หลังจากที่กลุ่มแรกได้ทยอยอพยพไปทั้งพระ เณร และชาวบ้านกว่า 2,000 คน ได้ทยอยขึ้นไปเขาใหญ่ เพื่อพักที่วัดซึ่งเป็นวัดลูกศิษย์ เป็นวัดในเครือข่ายของวัดชูจิตเอง และบางส่วนก็ได้ทยอยเข้าไปพัก ณ ศูนย์อพยพที่จัดเตรียมไว้ คือ ที่ค่ายอดิศร จ.สระบุรี

 

อาจารย์ยักษ์ดูสถานการณ์แล้วเห็นว่า กรุงเทพฯ น่าจะตกที่นั่งลำบากแน่นอน ความรู้สึกตอนนี้ อดหวนรำลึกย้อนกลับไปถึงคำของพระองค์ท่านที่ว่า “กรุงเทพฯ จะโปร่ง” ไม่ได้ สถานการณ์ตอนนี้ก็เห็นว่า กรุงเทพน่าจะโปร่ง ต่อเนื่อง ยาวนาน แน่นอน 

 

 

สิ่งที่เครือข่ายได้ฝึกอบรมผู้คนเอาไว้เป็นเรือนแสน ครั้งนี้น่าจะได้ใช้ประโยชน์ บรรดาศิษยานุศิษย์มาบเอื้องทุกรุ่น ที่ได้ไปก่อตั้งศูนย์ฯ เครือข่าย ทั้ง 52 ศูนย์ จะได้ใช้วิชาที่ฝึกไป ทั้งหลักสูตรกสิกรรมธรรมชาติ หลักสูตรสื่ออาสา หลักสูตร ป้องกัน เตือนภัย ฟื้นฟูภัยพิบัติภาคประชาชน และหลักสูตรแพทย์วิถีบ้านๆ ก็คงจะได้ใช้ความรู้ในครั้งนี้เข้าช่วยเหลือผู้คน และถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ระดมกำลังกันมา มากเท่าไหร่ยิ่งดี

 

ศูนย์ฯ มาบเอื้อง และสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มหาวิทยาลัยราชภัฏ ราชนครินทร์ แม้จะเปิดเป็นศูนย์อพยพ ก็จะไม่ได้ให้เพียงแค่ที่พักอาศัย แต่จะได้ใช้โอกาสนี้ ได้ฝึกฝน ได้ทบทวนบทเรียนของบรรดาเครือข่ายเรา ส่วนผู้ที่เข้ามาพักนั้นก็จะได้ฝึกตน ได้ทำความเข้าใจวิถีทางที่จะอยู่รอด และอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ นี่จึงเป็นแนวทางผ่านวิกฤตด้วยศาสตร์ของพระราชา ด้วยการไม่ต้านทานแต่ผ่านมันไป เหมือนทัพพระแม่คงคาในครั้งนี้ ที่แม้อาจหาญก็ไม่อาจต้านทานได้ มีแต่จะต้องปล่อยให้พระแม่คงคาผ่านไป จึงจะเสียหายและสูญเสียน้อยที่สุด ภัยพิบัติที่คนไทยเราเผชิญร่วมกันในครั้งนี้ แม้ว่าจะรุนแรงและทำความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินอย่างมากมาย มหาศาล แต่อาจารย์ยักษ์ก็ยังมองเห็นสิ่งดี คือคนไทยจะได้เรียนรู้และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านได้เตือนไว้ว่า จะเกิดภัยพิบัติขึ้นทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ภัยพิบัติธรรมชาติ โรคระบาดทั้งในคน สัตว์ พืช วิกฤตเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพง รวมทั้งความขัดแย้งในสังคม วิกฤตทั้ง 4 ด้านนี้ได้ปรากฏให้เห็นประจักษ์แล้ว การที่มนุษย์เรายังเพลิดเพลินกับเงินทอง อยู่กับความสะดวกสบายนั้น ก็ยิ่งจะทำให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ยาก +